หากพูดถึงการออกอาวุธในศิลปะ มวยไทย ( Muay Thai ) มีทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก แต่ ศอก เป็นอาวุธที่อันตรายที่สุดในบรรดา มวยไทย ( Muay Thai ) หากโดนเข้าไปเต็ม ๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
มีการทดลองออกมาว่า หมัด และ ศอก หากใช้ในแรงที่เท่ากัน พบว่า หมัด ใช้พื้นที่มากกว่า จึงทำให้เกิดค่าความดันที่น้อย ขณะที่ ศอก ใช้มุมองศา และพื้นที่การตีน้อย รวดเร็วกว่า จึงเกิดค่าความดันที่มาก เมื่อแรงจากปลายศอก ส่งเข้าไปกระทบผิวหนังใบหน้า ความดันนั้นจะมีค่าที่สูงมาก ส่งผลให้เกิดแผลแตกได้ง่าย และทำให้สมองมึนงง ไปจนถึงขั้นสลบได้เลย หรือหากมีการศอกตี ตัด งัด เข้าไปจุดอันตราย เช่น ปลายคาง, ทัดดอกไม้ ( ส่วนที่บางสุดของกะโหลก ) ก็สามารถทำให้ชนะน็อคเอาท์ได้เหมือนกัน
บริเวณปลายคาง เป็นจุดที่อันตรายมาก เพราะมีโอกาสที่แรงเหวี่ยงของศีรษะที่ถูกกระแทกจะช่วยเพิ่มความรุนแรงจนกระดูกสันหลังที่ห่อหุ้มก้านสมองแตก และเคลื่อนได้ หรือส่วนช่วงของขมับศีรษะ หรือทัดดอกไม้เนื่องจากเป็นช่วงบริเวณกะโหลกศีรษะที่มีความหนาน้อยที่สุด เวลาที่มีการกระทบจึงมีโอกาสที่ได้รับแรงกระแทกเต็มที่ นอกจากนี้ ศอก ยังเป็นอาวุธที่ทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้าได้ง่ายกว่าอาวุธทุกชนิด ยิ่งถ้าเป็นแผลแตกเหนือเบ้าตา จะส่งผลต่อการมองเห็นนักมวย
ถึงแม้ศอกจะเต็มไปด้วยข้อดี และความรุนแรงเหนืออาวุธ แต่การใช้ศอกให้ได้ประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ ศอก ใช้ได้แค่ในระยะประชิดตัว ภายใต้เงื่อนไขที่ จังหวะ ความเร็ว ความแม่นยำ ทุกอย่างต้องลงตัว และมีโอกาสศอกผิดพลาดสูง จนถูกโต้กลับด้วยอาวุธอื่นของคู่ชก ขณะที่ในมุมมอง ศอก คือ อาวุธ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่อันตรายมากสุด และจากประสบการณ์ที่เคยได้ฝึกสอนนักชกต่างชาติ ทุกคนที่มาเรียนล้วนต้องการที่มาเรียนรู้การใช้ศอก เพราะพวกเขามองเห็นว่า นี่คืออาวุธอันตราย แต่ทำได้ยากมาก
คนต่างชาติกลัวศอกคนไทย เพราะอย่างการต่อย การเตะ เขาสามารถทำได้อยู่แล้ว พอมีพื้นฐาน แต่การใช้ศอกมันเป็นเรื่องของเหลี่ยมมวย ที่นัก มวยไทย ( Muay Thai ) เป็น แต่ฝรั่งเขาไม่เป็น เพราะไม่ได้ถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก เวลาสอนชาวต่างชาติ สิ่งแรกที่เขาเรียกร้อง และอยากฝึกมากก็คือ การใช้ศอก โดยเฉพาะ จังหวะศอกกลับที่สุดอันตราย สามารถพลิกผลการแข่งขันของนักชกที่ราคาตามหลังให้กลับมาชนะได้ทันที แต่ก็เป็นจังหวะที่ทำได้ยากมาก และต้องได้จังหวะจริง ๆ ดังนั้นการใช้ ศอก จะแม้ได้ผลที่ดี แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงเหมือนกัน
มาทำความรู้จักกับการ “ ตีศอก ” ตามแบบฉบับ มวยไทย ( Muay Thai )
การตีศอก หรือ การฟันศอก เป็นแม่ไม้ มวยไทย ( Muay thai ) หนึ่ง ที่มีความอันตราย ยิ่งหากโดนศอกเข้าอย่างจังอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับการ ตีศอก ฟันศอก ให้แรงเพื่อฝึกฝนไว้เป็นศิลปะป้องกันตัวในยามฉุกเฉิน
การตีศอก หรือ ฟันศอก มีความคล้ายคลึงกับการต่อยให้แรง ให้หมัดหนัก เพราะการตีศอก ฟันศอกให้แรงไม่ได้ขึ้นกับความแข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นกับการประสานกันตั้งแต่การบิดเอว การใช้ปลายเท้าส่งแรง ทำให้เกิดโมเมนตัมที่ดี รวมถึงการเลือกตำแหน่งของข้อศอกในการจู่โจมคู่ต่อสู้
หากทำความรู้จักกับประเภทของการตีศอก ฟันศอก จะมีข้อดีในเรื่องของการเลือกท่าได้ถูกต้องตามสถานการณ์ ซึ่งนัก มวยไทย ( Muay thai ) ที่เก่ง ๆ จะสามารถผสมผสานท่าได้อย่างสวยงาม และมีชั้นเชิง
- ศอกตี : ใช้วิธีการตีศอกจากบนสู่ล่าง เฉียงซ้ายคล้ายมุมฉาก บางครั้งอาจบิดตัวตี โดยมีแรงส่งจากไหล่ ลำตัว และเท้า
- ศอกตัด : เป็นการตีศอกตัดขนานไปสู่เป้าหมาย
- ศอกงัด : เป็นการตีศอกจากกลางงัดขึ้นไปข้างบนตรงเป็นมุมฉาก
- ศอกกระทุ้ง : เป็นการใช้ศอกพุ่งออกไปด้านหลัง ในลักษณะกระทุ้ง มักใช้แก้ไขสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ประชิดเข้ามาด้านหลัง
- ศอกกลับ : เป็นการหมุนตัวตีศอกกลับไปทางด้านหลัง ตามจังหวะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนตามเท้า
- ศอกคู่ : เป็นการตีศอกด้วยแขนสองข้าง
ในการแข่ง มวยไทย ( Muay Thai ) ส่วนใหญ่ นักมวยแทบไม่ได้ใช้ระยะในการง้างศอก เพราะการจู่โจมคู่ต่อสู้ด้วยศอกนั้นต้องทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้นได้ นักมวยจะต้องสามารถออกแรงในระยะสั้นได้ ซึ่งการใช้ศอกจู่โจมแบบ มวยไทย ( Muay Thai ) ที่ถูกต้อง ใช้ตรงปลายข้อศอกที่แหลม และแคบในการสัมผัสเป้าหมาย เนื่องจากจะทำให้มีความรุนแรงเข้มข้นขึ้นในพื้นที่สัมผัสที่แคบ และให้ต้นแขนเป็นเหมือนฐานจรวดในการส่งแรงไปที่เป้าหมาย หากคุณไม่มีต้นแขนเป็นฐาน พลังการโจมตีจะเบาลงอย่างมาก
อย่างไรก็ดีใช่ว่า ศอก จะเป็นอาวุธที่ไม่มีประสิทธิภาพใน มวยไทย ( Muay Thai ) อย่างเดียวเสมอไป เพราะนักมวยบางคนก็เอาชนะคู่ชกได้ด้วยการชกที่หนักหน่วงจนคู่ต่อสู้เสียอาการ หรืออย่างกำปั้นบางคนใช้หมัดได้ดี สมัยชก มวยไทย ( Muay Thai ) จนถูกดึงตัวไปชกมวยสากลสมัครเล่นกับทีมชาติไทย หรือมวยสากลอาชีพ อาทิ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์, เขาทราย แกแล็คซี่, นครหลวงโปรโมชั่น ฯลฯ โดยการปล่อยหมัด ที่ทำน้ำหนักได้ดีสุด คือ การใช้หมัดตรง หมัดหลังที่นักมวยจะใช้การบิดไหล่ข้างถนัดโน้มไปข้างหลังเล็กน้อยเพื่อทำให้เกิดแรงส่งจากสะโพก ลำตัว หัวไหล่ ที่มากกว่าหมัดตรงธรรมดาออกไปยังเป้าหมาย แล้วดึงหมัดกลับมาในท่าจดมวยเดิม ซึ่งจะได้ผลดีมากหากทำได้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับการปล่อยหมัดแบบเสยขึ้น หรือหมัดอัปเปอร์คัดหากเข้าบริเวณคางก็มีโอกาสที่คู่ต่อสู้จะเกิดอาการมึนไปจนถึงขั้นน็อคเอาท์ได้
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
สงวนลิขสิทธ์ 2019 MuaythaiStreet Co., Ltd. สงวนลิขสิทธ์ทั้งหมด
เปิดให้บริการทุกวัน ส่งทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
98/3-5 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200