มวยไทย จากศิลปะการต่อสู้สู่การออกกำลังกายที่ยกระดับร่างกายและจิตใจ
เชื่อว่าในที่นี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “มวยไทย” ศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันมวยไทยได้ปรับตัวเข้าหายุคสมัยใหม่มากขึ้นโดยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเผยแพร่สู่สากลโลก เช่น อุปกรณ์มวยไทยต่างๆที่หาซื้อได้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และร้านค้า การนำมวยไทยไปประยุกต์เป็นการออกกำลังกายที่คนรักสุขภาพต้องสนใจ
มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทยที่ใช้การโจมตีจากร่างกายทั้งหมัด, ศอก, เข่าและเท้า ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ใช้ความเตรียมพร้อมทางด้านร่างกายแข็งแรงประสานเข้าด้วยกับจิตใจที่มั่นคง ด้วยการขยับเคลื่อนหมัด, ศอก, เข่าและเท้าในทุกท่วงท่าทำให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหว เผาผลาญไขมันส่วนเกิน เสริมสร้างความแข็งแกร่ง กระชับสัดส่วน ระบบโลหิตไหลเวียนโลหิตและหายใจดีขึ้น และต้องมีจิตใจที่เต็มไปด้วยสมาธิในการใช้ออกท่วงท่าต่างๆ เพราะกายกับจิตจะต้องประสานการทำงานไปพร้อมๆกัน จิตจะต้องจดจ่อกับเป้าหมายตรงหน้าไม่เหม่อลอย ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้
มวยไทยยังมีจิตวิญญาณที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย หรือในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Spirit of muaythai โดยแยกออกเป็น 4 หลักการได้แก่ ความแข็งแกร่ง(Strength), ความเรียบง่าย(Simple), ความสง่างาม(Smart), ความมีไมตรี(Smile) ซึ่งหลักการทั้ง 4 นี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้หลายๆรูปแบบ โดยเฉพาะการออกกำลังกายและการยกระดับจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส ดังนี้
- ความแข็งแกร่ง(Strength)
- แน่นอนว่าการออกกำลังกายจะส่งผลให้กล้ามเนื้อกระชับประสานกันและยืดหยุ่นมากขึ้น เกิดการเผาผลาญพลังงานและไขมันส่วนเกินทำให้กล้ามเนื้อหัวใจ, ปอด, หลอดเลือดสูบฉีดเลือดได้มากขึ้นและปราศจากไขมันอุดตันในเส้นเลือด จึงสามารถส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกายได้ง่ายขึ้น ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจึงมีความอึดทนทานมากกว่าคนทั่วไป เพื่อที่จะเห็นภาพได้ชัดนั้น ขอเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของร่างกายกับการบำรุงรักษาเครื่องจักร หากใช้งานเครื่องจักรเพียงอย่างเดียวไม่มีการบำรุงรักษาใดๆความเสื่อมโทรมจะเริ่มเกาะกินไปเรื่อยๆจนท้ายที่สุดแล้ว เสียค่าซ่อมแซมหลายเท่ามากกว่าค่าบำรุงรักษา เช่นเดียวกันกับร่างกายที่ไม่เคยหรือออกกำลังกายน้อยก็จะไม่มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่มากพอ ยามเมื่ออายุมากขึ้นโรคภัยต่างๆก็จะเข้ามารุมเร้า เช่น ภาวะกระดูกพรุน, โรคเบาหวาน ชวนให้เสียค่ารักษาพยาบาลตลอดชีวิตที่เหลือมากขึ้นเข้าไปอีก ดังนั้นความแข็งแกร่งทางร่างกายจึงเป็นสิ่งที่ควรเสริมผ่านการออกกำลังกายด้วยมวยไทยที่ใช้กล้ามเนื้อที่จำเป็นทุกส่วนตั้งไหล่ถึงฝ่าเท้า
- แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่เพียงแค่กล้ามเนื้อหรือระบบร่างกายกายอย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ จิตใจนั้นสามารถขัดเกลาให้มีความแข็งแกร่งได้เช่นกัน ความแข็งแกร่งด้านจิตใจคืออะไร คือศักยภาพในการรับมือกับปัญหา, ความขัดแย้ง, สถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เลวร้ายกดดันต่างๆได้อย่างไม่มีความเคร่งเครียดที่มากจนวิตกกังวลและก้าวข้ามผ่านอุปสรรคตรงหน้าไปได้ โดยเฉพาะมวยไทยที่มีการฝึกฝนกับคู่ต่อสู้หรือตั้งเป้าหมายกับตัวเอง จะต้องใช้ความตั้งใจ, ความมุ่งมั่น, ความทุ่มเทที่ส่งเสริมตัวเองว่ามีความสามารถหรือมีความแข็งแกร่งในตัวเองอย่างไรบ้าง นำไปสู่การตระหนักรู้ในตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร เป็นคนที่มีความภาคภูมิใจตัวเองหรือไม่ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นตัวเองว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายหรือสิ่งต่างๆในอนาคตได้โดยที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจเป็นตัวช่วยในการผ่านทุกๆอุปสรรคและทุกๆเป้าหมาย
- ความเรียบง่าย(Simple)
- ความเรียบง่ายคือ การมีชีวิตที่พึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ มีอยู่ มองเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นผ่านการออกกำลังกายที่ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น อารมณ์ดีขึ้น ลดความเครียด และเพิ่มสุขภาพจิตโดยรวมทำให้รับมือกับความท้าทายในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น เพิ่มระดับพลังงาน เพิ่มสมาธิและความตั้งใจ ทำให้กลายเป็นง่ายที่จะทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกได้ดีขึ้นเนื่องจากหลั่งของสาร Serotonin และสาร Endorphin ที่เป็นสารในสมองที่ช่วยให้มีความสุข บรรเทาความเจ็บปวดหรือคลายเครียดได้ นอนหลับพักผ่อนได้เต็มอิ่มดีมากขึ้น ช่วยลดอาการตื่นขึ้นกลางดึก ตื่นนอนได้อย่างสดชื่นไม่รู้สึกงัวเงียพร้อมที่จะเริ่มเช้าวันใหม่ได้อย่างเต็มที่ และเพิ่มความภาคภูมิใจในตนเอง(Self-esteem) เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยให้รู้สึกมั่นใจและคิดบวกเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในลักษณะที่เป็นบวกมากขึ้น พึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่ เคารพรักนับถือต่อตนเองและผู้อื่นซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่ชีวิตที่มีความเรียบง่าย
- ความสง่างาม(Smart)
- การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ช่วยให้ลดน้ำหนักจากไขมันส่วนเกิน กระชับกล้ามเนื้อ และปรับปรุงลักษณะทางกายภาพโดยรวมของคุณ วิธีนี้จะทำให้มีเสน่ห์มากขึ้นสำหรับคนอื่นๆ และเพิ่มความมั่นใจในตนเอง ปรับปรุงบุคลิกท่าทาง ทำให้เมื่อยืนหรือนั่งจะดูตัวสูงขึ้นเพราะกล้ามเนื้อได้รับการยืดหยุ่นและผ่อนคลายออกจากอาการออฟฟิสซินโดรมที่มีการนั่งทำอากัปกิริยาต่อคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถืออยู่ท่าเดียว จึงไม่ก้มหัวหรือโค้งไหล่ไปข้างหน้าเมื่อนั่งหรือยืนทำให้ดูมีความมั่นใจและสง่าผ่าเผยมากขึ้น เพิ่มระดับพลังงานของคุณ และทำให้รู้สึกมีพลังและมีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งอาจดึงดูดใจผู้อื่นว่าคุณมีบุคลิกและอารมณ์ที่ผ่อนคลาย มีเสน่ห์ น่าเข้าหาได้ง่าย นอกจากนี้การออกกำลังกายสามารถปรับปรุงลักษณะผิวให้มีความชุ่มชื้นและดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการส่งสารอาหารและออกซิเจนไปยังเซลล์ผิวของคุณ ช่วยลดอาการแก่ชราบนผิวหนัง กระชับลักษณะผิวให้มีความเต่งตึงไม่หมองคล้ำ เสริมสร้างความสง่างามในภายนอกมากขึ้น
- ความมีไมตรี(Smile)
- เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “สยามเมืองยิ้ม” กันบ้าง เนื่องด้วยประชาชนคนไทยมีความเป็นมิตรมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โอบอ้อมอารีต่อชาวไทยด้วยกันและชาวต่างชาติ กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำประเทศเมื่อชาวต่างชาตินึกถึงอย่างแรกๆ รอยยิ้มจากการออกกำลังกายเริ่มต้นจากการมีไมตรีจิตที่มาจากการมีความสนใจร่วมกับคนอื่นๆที่ชื่นชอบกิจกรรมประเภทเดียวกัน ได้มีโอกาสเข้าสังคม พบปะรู้จักสังสรรค์กับเพื่อนใหม่ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนต่างๆนาๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นที่มีความสนใจและค่านิยมคล้ายกันในอนาคตได้ ลดความรู้สึกซึมเศร้าและวิตกกังวลได้ ความเจ็บปวดทางจิตใจจะได้รับการเยียวยาให้หยุดคิดฟุ้งซ่านหรือมองโลกในแง่ลบลง ส่งผลว่าอาจมีแนวโน้มที่จะมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ออกจากกรอบเดิมๆที่คุณขังตัวเองเอาไว้ เพิ่มความมั่นใจในตนเองและความนับถือตนเอง ซึ่งจะทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ทางสังคม ช่วยลดอุปสรรคทางสังคมลง ช่วยทลายกำแพงทางสังคมได้ โดยการนำผู้คนจากภูมิหลัง, วิถีชีวิต, ลักษณะภายนอกและนิสัยที่แตกต่างกันมารวมกันในกิจกรรมที่ได้กระทำร่วมกัน ด้วยสิ่งนี้จะสามารถส่งเสริมความรู้สึกของความสนิทสนมกัน เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจต้องการให้ความช่วยเหลือ และการมีน้ำใจต่อนักกีฬาโดยที่เคารพซึ่งกันและกันโดยไม่ตัดสินผู้คนจากครั้งแรกที่พบเจอ ทำให้เกิดความมีไมตรีและรอยยิ้มระหว่างผู้เข้าร่วมการออกกำลังกายด้วยกัน
- ศิลปะการต่อสู้ด้วยมวยไทยยังส่งเสริมให้มีโฟกัสเพิ่มสมาธิ และความสนใจที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยให้คุณสนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น ไม่เหมือลอยหรือวอกแวก และตระหนักถึงอันตรายหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้มากขึ้น เกิดความยืดหยุ่นในการรับรู้ที่เพิ่มขึ้น มีความสามารถในการสลับไปมาระหว่างงานและมุมมองต่างๆ สิ่งนี้สามารถช่วยให้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน มีวิธีคิดอย่างชัดเจนและตัดสินใจในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ด้วยกรอบความคิดเชิงบวกและสร้างสรรค์ เพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองซึ่งช่วยให้คุณรู้ตัวว่าเมื่อใดที่คุณประมาทหรือไม่ให้ความสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้ามากพอ โดยรวมแล้วสามารถปรับปรุงความสามารถในการประเมินสถานการณ์และตัดสินใจได้ดีขึ้นด้วยการผสมผสานการออกกำลังกายเป็นประจำเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณ
นอกจากนี้มวยไทยยังเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สามารถให้ประโยชน์ได้ไม่แพ้ศิลปะการต่อสู้ชาติอื่นๆอย่าง ยูโด, ยู ยิตสึ, เทควันโด, คาราเต้, กังฟู, คาโปเอร่า ดังนี้
- ฝึกฝนทักษะการป้องกันตัวที่เป็นประโยชน์ในสถานการณ์จริง เมื่อเกิดเหตุการณ์เสี่ยงอันตรายหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ การมีทักษะการป้องกันตัวติดไว้ก็เป็นปัจจัยที่ดีในการลดทอนความรุนแรงหรือหลบหลีกออกจากสถานการณ์ตรงหน้าได้
- มีสมาธิและระเบียบวินัยที่เพิ่มขึ้น เพราะการฝึกศิลปะการต่อสู้ต้องมีระเบียบวินัย สมาธิ และความมุ่งมั่น สามาถสะท้อนผ่านการไหว้หรือการร่ายรำก่อนการลงสู่สนามของนักมวยที่ไม่ใช่แค่การแสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ผู้สอนเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับปรุงจิตใจให้มีความชัดเจนแจ่มแจ้งและมีโฟกัสต่อคู่ต่อสู้มากขึ้น
- ปรับปรุงความสมดุลและการประสานงานระหว่างอวัยวะส่วนต่างๆในร่างกาย เนื่องศิลปะการต่อสู้อย่างมวยไทยต้องการความสมดุลและการประสานงานของอวัยวะหลากหลายส่วน ซึ่งทำให้กายภาพโดยรวมมีความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม, ข้อเท้าพลิก หรือแขนขาได้รับความเสียหาย
จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายผ่านมวยไทยนั้นให้อะไรมากมายทั้งแวดล้อมภายในและภายนอก โดยภายในตัวเองนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ พัฒนาร่างกายกับพัฒนาจิตใจ และภายนอกตัวเองคือ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง
ในด้านของการพัฒนาร่างกายนั้น สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดจะทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเสริมสร้างหัวใจของคุณและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง ควบคุมรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยการเผาผลาญแคลอรีและสร้างกล้ามเนื้อตามหลักดัชนีมวลกาย(Body Mass Index: BMI)ที่ได้กำหนดไว้ ปรับปรุงเพิ่มความแข็งแกร่งและความอดทน ทำให้ทำกิจกรรมประจำวันได้ง่ายดายขึ้น เช่น ถือของหิ้วสัมภาระต่างๆ, การขึ้นลงบันได, การเดินทางไกลได้อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยง่าย ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังที่มีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเข้าสู่วัยชราในบั้นปลายชีวิต เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, โรคกระดูกพรุน ไขมันโคเลสเตอรอล (Cholesterol)และไตรกลีเซอไรด์, โรคภูมิแพ้ (Triglyceride) และมะเร็งบางชนิด ช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหารทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อให้น้อยลง
ในด้านของการพัฒนาจิตใจนั้น มวยไทยจะช่วยเชื่อมโยงกับฟังก์ชันการรับรู้ที่ดีขึ้น รวมถึงความจำ ความสนใจ และความเร็วในการประมวลผลที่ดีขึ้น ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น สามารถทำงานหลายประเภทในครั้งเดียวกันได้(Multi-tasking) ซึ่งเป็นทักษะที่มีประโยชน์ในการทำงานหรือทำกิจวัตรต่างๆในยุคปัจจุบัน ลดอาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และทำให้สุขภาพจิตโดยรวมดีขึ้น การนอนหลับของคุณ จะมีคุณภาพ สามารถหลับเร็วขึ้นและหลับได้นานขึ้น ลดอาการของโรคนอนไม่หลับ(Insomnia)ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดอาการหงุดหงิดหรือเครียด
นอกจากนี้แวดล้อมภายนอกของผู้ออกกำลังกายผ่านมวยไทยนั้นยังเกิดการมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้คนรอบข้าง ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกันในสถานที่เดียวกัน ช่วยเปิดโอกาสให้พบปะผู้คนใหม่ๆ และเข้าสังคมกับคนอื่นๆ ที่มีความสนใจในด้านกีฬาหรือด้านอื่นๆในอนาคตเหมือนกัน การสร้างกลุ่มหรือทีมที่มีความสนใจเหมือนกันก็ช่วยให้โอกาสในการเข้าสังคมและสร้างมิตรภาพระยะยาวกับเพื่อนร่วมทีม เพิ่มความมั่นใจในตนเองและความนับถือตนเอง ทำให้ง่ายต่อการเริ่มต้นการสนทนาและสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ และมีอุปสรรคทางสังคมที่ลดลงเพราะการออกกำลังกายสามารถช่วยทลายกำแพงทางสังคมได้โดยการนำผู้คนจากภูมิหลังและวิถีชีวิตที่แตกต่างกันมารวมกันในกิจกรรมที่ใช้ร่วมกัน สิ่งนี้สามารถส่งเสริมความรู้สึกของความสนิทสนมกันและการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม