มวยไทย
กีฬาและศิลปะป้องกันตัวประจำชาติไทย
โดยในแต่ละภาคของไทยก็มีเชิงมวยประจำท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งแบ่งได้เป็น มวยไทย 4 ภาค
ดังต่อไปนี้
มวยท่าเสา
เป็นสายมวยไทยภาคเหนือ
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสายนี้กำเนิดขึ้นเมื่อใดใครเป็นครูมวยคนแรก มีเพียงหลักฐานที่ปรากฎว่า
ครูมวยไทยท่าเสา ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คือ "ครูเมฆ"
ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องความคล่องแคล่วว่องไว รวดเร็ว เด็ดขาด
และมีลีลาท่าทางสวยงามและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม้เตะ ถีบ และศอก
เป็นที่เลื่องลือกระฉ่อน จนนายทองดี หรือที่หลายคนรู้จักดีในนาม
"พระยาพิชัยดาบหัก" มาปฏิญาณกับตัวเองว่า
จะต้องมาขอเรียนศิลปะมวยไทยกับสำนักท่าเสาให้ได้
และก็ได้เป็นศิษย์ของครูเมฆในเวลาต่อมา
มวยท่าเสา
มีความโดดเด่นในการจดมวยกว้าง และน้ำหนักตัวไปทางด้านหลัง เท้าหน้า สัมผัสพื้นเบา
ๆ ทำให้ออกมวยได้ไกล รวดเร็ว และรุนแรง หมัดหน้าห่างจากหน้าสูงกว่าไหล่
และหมัดหลังจะต่ำ มวยประเภทนี้เป็นทั้งมวยอ่อน และมวยแข็ง
สามารถรุกรับตามสถานการณ์ รู้วิธีรับก่อนรุก เรียนแก้ก่อนผูก เรียนรู้จุดอ่อน
จุดแข็ง ของตนเองและคู่ต่อสู้
มวยโคราช
เป็นสายมวยภาคอีสาน
ถือกำเนิดมาจาก จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในสมัยรัชกาลที่ 5-6
โดยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) ทรงครองราชย์
พ.ศ.2411 พระองค์ทรงโปรดกีฬามวยไทยมาก การฝึกหัดมวยไทยแพร่หลายไปตามหัวเมืองต่าง ๆ
ทั่วประเทศ ทรงจัดให้มีการแข่งขันชกมวยหน้าพระที่นั่งในงานศพของ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์อุรุพงษ์รัชสมโภช ในวันที่ 18-21 มีนาคม พ.ศ.2452
(ร.ศ.128) ณ ทุ่งพระเมรุ โดยเจ้าเมืองต่าง ๆ
ได้คัดเลือกนักมวยที่มีฝีมือดีทั่วประเทศมาแข่งขันกัน
หากนักมวยคนใด
เป็นที่พอพระราชหฤทัย
ของพระองค์ จะได้โปรดเกล้าฯ
พระราชทานยศ และบรรดาศักดิ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีนักมวยจากมณฑลโคราช
เป็นขุนหมื่นครูมวย คือ แดง ไทยประเสริฐ ได้รับพระราชทานเป็น
"หมื่นชงัดเชิงชก" ทำให้มวยโคราชเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา มวยโคราช
มีการแต่งกาย การคาดเชือก การจดมวย การฝึกซ้อม การร่ายรำ และรูปแบบวิธีการชกที่เป็นเอกลักษณ์
โดยเฉพาะ การชกหมัดวงกว้างหนักหน่วงที่เรียกว่า "หมัดเหวี่ยงควาย"
มวยลพบุรี
เป็นมวยไทยสายภาคกลาง
ที่มีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ พ.ศ.1200
จนมาในสมัยที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครองราชย์ ก็ได้ส่งเสริมมวยลพบุรีอย่างกว้างขวาง
มีการจัดการแข่งขัน โดยกำหนดขอบสังเวียน และมีกติกาการแข่งขัน
รวมถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ
พระมหากษัตริย์อีกหนึ่งพระองค์ที่สนับสนุนมวยไทบ ชอบชกมวยไทย
และมักปลอมพระองค์ไปชกมวยกับชาวบ้านอยู่เป็นประจำ
เอกลักษณ์ของมวยลพบุรี
คือ เป็นมวยที่ชกฉลาด รุกรับคล่องแคล่วว่องไว ต่อยหมัดตรงได้แม่นยำ เรียกว่า
"มวยเกี้ยว" หมายถึง มวยที่ใช้ชั้นเชิงเข้าทำคู่ต่อสู้
โดยใช้กลลวงมากมาย เคลื่อนตัวอยู่เสมอ หลอกล่อ หลบหลีกได้ดี สายตาดี
รุกและรับออกอาวุธหมัด เท้า เข่า ศอก ได้อย่างรวดเร็ว
มวยไชยา
เป็นมวยไทยสายภาคใต้
เป็นศิลปะมวยประจำถิ่นอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีต้นกำเนิดมาจาก
"หลวงพ่อมา" อดีตนายทหาร จากพระนคร สมัยรัชกาลที่ 3
มาฝึกมวยให้กับชาวเมืองไชยา
และต่อมาเริ่มชื่อเสียงในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่
5) เนื่องจาก นายปรง นักมวยเมืองไชยา ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
เป็นหมื่นมวยมีชื่อ ตำแหน่งกรรมการพิเศษ เมืองไชยา และถือศักดินา 300
เอกลักษณ์ของมวยไชยา
มีอยู่ 7 ด้าน คือ 1. การตั้งท่ามวย หรือการจดมวย 2. ท่าครูหรือท่าย่างสามขุม 3.
การไหว้ครูร่ายรำ 4. การพันมือแบบคาดเชือก 5. การแต่งกาย 6. การฝึกซ้อมมวยไชยา และ
7.แม่ไม้มวยไชยา กระบวนท่ามวยไชยามีทั้งหมด 5 ชุด คือ แม่ไม้มวยไทยไชยา 7 ท่า
ได้แก่ ปั้นหมัด พันแขน พันหมัด กระโดดตบศอก พันหมัดพลิกเหลี่ยม เต้นแร้งเต้นกา
ย่างสามขุม เคล็ดมวยไชยาที่ใช้ป้องกันได้ดีที่สุดคือ "ป้อง ปัด ปิด
เปิด"
มวยไทยทั้ง
4 ภาคต่างมีประวัติศาสตร์ และเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ซึ่งหากเปรียบเปรยความสามารถเชิงมวยของท้องถิ่นต่าง
ๆ จะสรุปได้ว่า “ หมัดหนักโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา
ไวกว่าท่าเสา ครบเครื่องพลศึกษา ”
ซึ่งในส่วนของมวยพลศึกษานั้น เป็นมวยที่กรมพลศึกษา นำสุดยอดวิชามวยไทยของแต่ละสายมาประยุกต์ใช้ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
จึงเป็นมวยไทย ที่มีความครบเครื่อง นั่นเอง
อ่านบทความเพิ่มเติม
ประเพณีเกี่ยวกับ มวยไทย
ที่มีมาแต่โบราณ
สงวนลิขสิทธ์ 2019 MuaythaiStreet Co., Ltd. สงวนลิขสิทธ์ทั้งหมด
เปิดให้บริการทุกวัน ส่งทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
98/3-5 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200