สร้างซิกแพคด้วยมวยไทย
ถ้าพูดถึงร่างกายของคนที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า
ภาพในหัวต้องไม่พ้นคนที่มีร่างกายแข็งแรง มีกล้ามเนื้อ
สำคัญคือต้องมีกล้ามหน้าท้องหรือซิกแพค วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสร้างซิกแพคมวยไทย
ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวถือเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน
และต้องบอกเลยว่ามันสามารถใช้ป้องกันตัวได้จริง
และในปัจจุบันก็ยังถูกใช้ในเกมกีฬาระดับโลกในปัจจุบัน ต้องบอกเลยว่าประเทศไทยนั้นได้มีนักกีฬามวยที่มีอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ที่มีฝีมือ
และประเทศไทยของเรานั้นก็มีประวัติที่ยาวนานมากกับ มวย ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
เพราะมันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ร้ายกาจมาก ๆ และที่สำคัญ
มันสามารถใช้ล้มคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว และมันสามารถใช้อวัยวะส่วนต่าง
ๆ ในการต่อสู้ร่างกายของเรานั้น สามารถเป็นอาวุธได้หมดไม่ว่าจะเป็น หมัด เข่า ศอก
เท้า ซึ่งทุกส่วนนั้นสามารถทำอันตรายหรือน็อคคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
เป็นการต่อสู้ที่ต้องบอกไว้เลยว่าไม่จำเป็นจะต้องใช้อาวุธก็สามารถคว่ำคู่ต่อสู้ได้
กีฬามวยไทยนั้นมันเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
ซึ่งระยะห่างก็อยู่ในช่วงแขนและช่วงขาของเราเอง ซึ่งเป็นระยะใกล้ ซึ่งจะเรียกได้ระยะประชิดเลยก็ว่าได้และเป็นที่ยอมรับ
มันเป็นการต่อสู้โดยผสมผสานสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์และศิลป์มันมีท่วงท่าที่สวยงาม
และยังมีท่วงท่าที่สามารถทำอันตรายคนให้ถึงตายได้แล้วต้องบอกเลยว่ามันอันตรายมาก ๆ
และในมวยไทยปัจจุบันต้องบอกเลยว่าได้การยอมรับทั่วโลก
และมีการจัดแข่งขันทั่วไปมันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เราจะเห็นได้เลยว่ามันถูกใช้เป็นกีฬา และมีทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ เราจะเห็นได้เลยว่าการชกมวยเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกเลยจริง
ๆ อย่างของบ้านเราในปัจจุบันน่าจะเป็น บัวขาว บัญชาเมฆ
และต้องบอกเลยว่าทุกแมทที่เขาต่อยนั้นจะเป็นแมตช์ที่คนให้ความสนใจมาก ๆ
เพราะกีฬามวยมันเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน
และก็ได้รับความนิยมมาโดยตลอดในปัจจุบันมีทั้งการนำไปเป็นกีฬาการเรียน
เพื่อการป้องกันตัวหรือแม้กระทั่งการเรียนเพื่อออกกำลังกายทุกอย่างเป็นข้อดีทั้งนั้น
ต้องบอกเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย
ประเภทของมวย
1.มวยไชยา
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่ามวยไชยานั้นเป็นประเภทมวยที่สามารถเกิดอันตรายได้มากที่สุด
เพราะว่าการพันมัดด้วยเชือกนั้น มันจะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ทำอันตรายคู่ต่อสู้ได้ง่ายมากกว่าการแข่งขันพวกมวยไทยหรือมวยสากล
ดังนั้นต้องบอกเลยว่ามวยประเภทนี้จำเป็นจะต้องใช้สายตาในการต่อสู้
ดังนั้นจึงต้องห้ามละสายตาเป็นอันขาดและในมวยประเภทนี้สามารถออกอาวุธได้ทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นหมัดเข่าศอกหรือแม้แต่กระทั่งจระเข้ฟาดหาง
ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งกีฬายอดนิยมที่ชายคนนั้นชอบดู
แล้วต้องบอกเลยว่าต้นกำเนิดนั้นมันอยู่ที่อำเภอไชยาแล้วต้องบอกเลยว่า
มันเป็นอีกมวยหนึ่งประเภทที่ได้มีชื่อเสียงที่โด่งดังเพราะว่าไม่ได้มีดีแค่ฝีมือ
มันยังสามารถใช้ได้จริง แล้วต้องบอกเลยว่ามันเป็นมวยชั้นสูงที่มีความอันตราย
ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการชกต่อยของมวยประเภทนี้น้อยลง
และมันก็เป็นมวยที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยก่อน
2.มวยไทย
นักมวยไทยในปัจจุบันต้องบอกเลยว่าถ้ายิ่งเป็นมวยอาชีพ
และเราก็จะมีการฝึกที่ดุเดือดอย่างแน่นอน
เพราะจะต้องออกกำลังกายตั้งแต่เช้าแล้วก็เย็นซึ่งเช้าเย็น
อาจจะเป็นวิ่งส่วนการฝึกซ้อมประเภทอื่น ๆ ก็อาจจะอยู่ที่ตารางการซ้อมและต้องบอกเลยว่าการฝึกฝนที่จะเป็นมืออาชีพนั้น
จำเป็นจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงและฝึกซ้อมอย่างดี
แต่ต้องบอกก่อนว่าสำหรับมวยไทยนั้นมันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ต้องบอกไว้เลยว่า
มันก็เหมือนการจำลองการต่อสู้แต่ต่างจากมวยไชยาก็ตรงที่จะใช้นวมในการชกมวย
แล้วต้องบอกไว้เลยว่าในปัจจุบันนักมวยอาชีพนั้นมีการฝึกฝนอย่างเต็มที่
เพื่อที่จะได้สามารถเข้าแข่งขันเวทีมวยไทยร้านในปัจจุบัน ต้องบอกเลยว่าการจะเป็นนักมวยได้จะต้องมีสภาพจิตใจที่ดี
และมวยไทยนั้นก็ไม่ต่างไปจากมวยไชยาเพียงแค่สายรวมเท่านั้น
สิ่งที่สำคัญคือจำเป็นจะต้องล้มคู่ต่อสู้ให้ได้ไม่ว่าจะน็อกหรือชนะแต้มคะแนน
3.มวยสากล
ถือเป็นมวยอีกหนึ่งประเภทที่เป็นมวยโดยใช้ศิลปะการต่อสู้
ซึ่งมันจะมีกฎกติกาโดยจำเป็นจะต้องใช้เพียงแค่หมัดทั้งสองข้างเท่านั้นในการแข่งขัน
แล้วมันก็เป็นกีฬาที่ถูกบรรจุอยู่ในกีฬาโอลิมปิกได้รับความนิยมทั้งปัจจุบัน
และสมัยก่อนต้องบอกเลยว่ามันจะใช้กันนับคะแนน
และฝ่ายไหนก็ชนะไปฝ่ายไหนแพ้คะแนนก็แพ้ไปโดยรูปแบบการชกก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทำยังไงก็ได้เพียงใช้บัตรทั้งสองข้างชกให้ชนะก็พอ
และที่สำคัญมีการจำกัดน้ำหนักโดยส่วนใหญ่แล้วมวยสากลนั้น
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกีฬามวยที่ใช้มือเพียงสองข้างเท่านั้น
แต่ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากเลยเช่นเดียวกัน
และในกีฬามวยสากลนั้นมันแพร่หลาย และก็มีนักกีฬาชาวไทยที่ประสบความสำเร็จเช่นกันมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จ
และเป็นนักมวยชื่อดังอย่างเช่น แมนนี่ ปาเกียว
ซึ่งดีกรีแชมป์ที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอนยางคนไทยของเราก็คือ เขาค้อ
กาแล็คซี่ หรือ เขาทราย กาแล็คซี่ เป็นต้น
หมัด เท้า เข่า ศอก คือคำที่ได้ยินบ่อย ๆ จากกีฬาประจำชาติไทย
ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครในโลกไม่รู้จัก มวยไทย ( Muay
Thai ) คือ กีฬาศิลปะการต่อสู้ที่น่าภาคภูมิใจ
แน่นอนที่นักมวยแต่ล่ะคนก็ต้องย่อมมีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งอาวุธ
เพราะอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด คือร่างกายของเรานั่นเอง โดยเฉพาะกล้ามหน้าท้องหรือ ซิกแพค
พวกเขามีวิธีสร้างกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งและดุดันแบบนั้นได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราไปติดตามรายละเอียดกันเลย
สร้างซิกแพคด้วยมวยไทย
ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อช่วงของการพับตัว บิดตัว โยกตัว
งอตัวจากส่วนล่างจนถึงส่วนบนโดยมีท่าพื้นฐานทั้งหมด 5 ท่า คือ
1. ท่า Sit Up และชก
12-15 ครั้ง 1-2 เซต
ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและด้านข้าง
โดยจะเป็นการ Sit Up และชกล่อเป้า
ยิ่งถ้าหากมีคู่ซ้อมที่ช่วยให้เราสามารถชกล่อเป้าได้จะยิ่งดีมาก แต่ถ้าหากไม่มี
ก็สามารถใช้วิธีชกลมได้ ไม่ต่างกัน โดยธรรมชาติของท่านี้ จะใช้ร่างกายในการบิด
งอตัวและเหยียดตัว เพื่อสามารถชกให้โดนเป้าได้มากขึ้น
2. ท่า Sit Up และทุบ
12-15 ครั้ง 1-2 เซต
ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง
เป็นการ Sit Up และโดนทุบ
โดยให้คู่ซ้อมทุบตรงส่วนบริเวณหน้าท้อง ในช่วงยกตัว ด้วยเป้าล่อท่านี้จะช่วยในเรื่องของการสร้างความคุ้นเคย
โดยธรรมชาติของร่างกายจะเกิดอาการเกร็ง เมื่อมีสิ่งใดมาปะทะตรงบริเวณช่วงหน้าท้อง
เป็นการสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อไหวพริบและระบบประสาทอาจเคยสงสัยกันว่า
ทำไมนักมวยถึงสามารถทนทานต่อการถูกตีเข่าเป็นเวลานาน ๆ ได้
คำตอบก็คือท่านี้นั่นเอง
3. ท่า Sit Up และหลบ
12-15 ครั้ง 1-2 เซต
ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและด้านข้าง
เป็นการ Sit Up และหลบหมัดของคู่ซ้อมในระหว่างที่ยกตัวขึ้นมา
โดยจะได้ทักษะในการหลบหมัดคู่ต่อสู้ พิงเชือก โยกตัว โดยท่านี้จะได้ทั้งในส่วนกล้ามเนื้อทั้งเอวและขา
4. ท่าตีเข่า
30 วินาที 1-2 เซต
ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง /
ด้านข้าง และน่อง
ท่านี้จะเป็นการใช้ขาช่วงล่างหนักขึ้น โดยใช้ขาข้างที่เราทรงตัว
ตีเข่าขึ้นกลางอากาศ ยิ่งเร่ง การทรงตัวและการเขย่งจะยิ่งทำงานหนักขึ้น
และเมื่อขึ้นชกกับคู่ต่อสู้ จะช่วยในเรื่องของการหลบหลีกและการทรงตัว
ทำให้เรายืนขาได้มั่นคงยิ่งขึ้น
5. ท่าเตะข้าง
30 วินาที 1-2 เซต
ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง /
ด้านข้าง และน่อง
ท่านี้จะได้กล้ามเนื้อในส่วนของลำตัวด้านข้าง ซึ่งจะแตกต่างจากท่าตีเข่า
โดยการใช้แรงมากขึ้นและยืดขามากขึ้น
ซึ่ง 5 ท่าเหล่านี้ คือเทคนิคขั้นพื้นฐานของการสร้างซิกแพคด้วย มวยไทย ( Muay
Thai )โดยท่าแรก สำหรับช่วงเริ่มต้น
อาจไม่ต้องใช้วิธีการทุบเลยทันที อาจจะเป็นการเกร็งค้างไว้ แล้วค่อยปล่อยลงมา
ท่าล่ะ 1-2 รอบ ส่วนคนที่เริ่มชินแล้วแนะนำให้ทำท่าตั้งแต่ 1-5 แล้วค่อยพัก
นอกจากได้ซิกแพคแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องของ คาร์ดิโอ
หรือการมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นด้วย
กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของเรา ต้องมาพร้อมกับจิตใจที่แข็งแกร่งและมุ่งมั่น
การสร้าง Six Pack ด้วยมวยไทย ( Muay
Thai ) คงไม่ยากเกินกว่าความตั้งใจของเรา แค่คิดว่าเราทำได้
เราก็จะทำได้เช่นกัน หากใครสนใจอยากเรียนมวยไทย ( Muay Thai ) เรามีสอนให้ที่ เจริญทองมวยไทยยิม (Jaroenthong Muay Thai Gym) กับสาขาที่ใกล้และสะดวกที่สุดได้เลย
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
อยากเริ่มฝึกต่อยมวย
ควรเริ่มยังไงดี
