ทุกคนคงรู้จักยอดดารากังฟู
ผู้ไม่มีวันตายจากใจแฟนคลับ ที่มีทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ กับ บรูซลี
ราชากังฟูชื่อดังแห่งยุค 70
ที่ซึ่งทั้งค้นพบและสร้างวิชาศิลปะการต่อสู้ของตัวเองขึ้นมา กับวิชา
จีทคุนโด้
หากจะเอ่ยถึงยอดดารากังฟู ก่อนยุคที่
เฉินหลง หรือเจ็ทลี จะผงาดสู่วงการฮอลลีวูด และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
พวกเขาต่างมีไอดอลคนเดียวกัน ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกศิลปะการต่อสู้แบบจีนให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก
จะเป็นใครไปซะไม่ได้ นอกจากฉายา ไอ้หนุ่มซินตึ้ง อย่างเขา บรูซลี ยอดดารากังฟูก้องโลก
ผู้ไม่ได้เก่งกาจวิชากังฟูแค่ในหนังภาพยนตร์เท่านั้น แต่ในโลกความจริง เขาก็มีวิชาที่เก่งพอตัวจริงๆ
จนสามารถคิดค้นวิชาศิลปะการต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาได้ และยังคงมีผู้สืบทอดอยู่จนถึงปัจจุบัน
ยังไม่เลือนหายไป นั่นก็คือวิชา จีทคุนโด้ หรือ วิชาหยุดหมัด มวยประยุกต์รูปแบบใหม่
ที่ซึ่งรวบรวมข้อดีของศิลปะป้องกันตัวทุกชนิดเข้าไว้ด้วยกัน ที่ยังคงไว้ซึ่งหลักวิชาหย่งชุนไว้อย่างมากมาย
จีทคุนโด้ เป็นหลักการต่อสู้มือเปล่า ที่ บรูซลี
คิดค้นขึ้น ก็เพื่อการต่อสู้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อการกีฬา เขาได้นำเอาเทคนิค และข้อดีของศิลปะการต่อสู้ รวมถึง
26 กว่าชนิด อาทิ กังฟู, มวยปล้ำ, มวยสากล, คาราเต้, ยิวยิตสู หรือมวยไทย ที่ว่ากันว่า
เป็นพื้นฐานของวิชามวยนี้ ไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยมีท่วงทำนองที่ลื่นไหล และยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
บางแหล่งข้อมูลก็ว่ากันว่า จีทคุนโด้ เป็นวิชาผสม
ที่ได้รับอิทธิพล เทคนิคของวิชาสายอื่น แล้วเอามาพัฒนากลั่นกรองเข้าระบบเเนวคิด และกลยุทธ์การต่อสู้ในแบบของ
จีทคุนโด้ จนมีแนวทางเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน
ปรัชญาของจีทคุนโด้
คงหาได้ยากนักกับศิลปะการต่อสู้
ที่นอกจากจะมีฝึกเอาไว้ป้องกันตัวแล้ว ยังสามารถใช้หลักปรัชญาวิชานี้
ไว้สอนดำรงชีวิตด้วย จีทคุนโด้ อาจเปรียบเสมือนได้ถึงการรู้แจ้งในศิลปะการต่อสู้
นั่นคือ การขจัดทุกๆ สิ่งที่บดบัง ความรู้ที่แท้จริง กับชีวิตที่แท้จริง เพราะฉะนั้น
การรู้แจ้ง จึงอาจหมายถึงการขยายออกไปอย่างไร้ขอบเขต และเน้นว่า เราไม่ควรตกลงสู่การปลูกฝัง
ในสิ่งเฉพาะส่วน ที่ถึงอย่างไร ก็จะต้องหลอมรวมตัวเองเข้ากับส่วนทั้งหมดอยู่ดี แต่ตัวเรา
ก็ควรจะมุ่งไปสู่ส่วนทั้งหมด ที่สามารถประสานสิ่งเฉพาะส่วน ทั้งหลายเข้าไว้ด้วยกัน
เป็นวิชาศิลปะการต่อสู้
ที่เป็นการแสดงออก ซึ่งชีวิตที่ข้ามพ้นทั้งกาลเวลาและอวกาศ เรายังต้องใช้วิญญาณ ( SOUL ) ของเราในการทำงานให้เต็มที่
โดยผ่านศิลปะ เพื่อให้รูปการใหม่แก่ชีวิต และให้ความหมายใหม่แก่ธรรมชาติ หรือโลกนี้
การฝึกของจีทคุนโด้
การฝึก จีทคุนโด้ จะมีระบบแบบ มวยภายนอก เห็นได้จาก FITNESS PROGRAM ของ บรูซลี ในหนังสือ เต๋าจีทคุนโด้ ซึ่งได้แก่
- การฉีกขาให้กว้าง
- การวิดพื้น
- การวิ่งอยู่กับที่
- การหมุนไหล่เป็นวงกลม
- การฝึกเตะสูง
- การฝึกเตะข้าง ( SIDE KICK ) ให้สูง
- การฝึกงอเข่า กับงอตัวไปข้างหน้า
- การฝึกยกขาให้สูง
- การฝึกท่านั่ง - ลุก ( SIT - UPS )
- การฝึกบิดเอว
ซึ่งวิธีการฝึกแบบนี้
จะสามารถช่วยเสริมกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นร่างกาย ให้อ่อนหยุ่น แต่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังอาจไม่เพียงพอ
และไม่มีวันที่จะสามารถพัฒนา ลมปราณ ( ชี่ ) กับพลังรังไหม ( จิ้ง ) ซึ่งเป็น ปัจจัยหลักสองประการ ของวิชากังฟู โดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นเคล็ดลับวิชาที่มีความแตกต่างกับแขนงอื่นพอสมควร
จีทคุนโด้ ศิลปะการต่อสู้ ที่มีพื้นฐานจากมวยไทย?
ตัว บรูซลี เอง
ถึงแม้จะศึกษาวิธีการเตะของมวยไทยมา แต่ในตัวระบบวิชาของ จีทคุนโด้ ในแบบ Classic ดั้งเดิม อย่างสายของ
Ted Wong ศิษย์เอกอีกคนนั้น ความจริงแล้ว
พื้นฐานเหล่านั้น จะไม่ค่อยได้นำมาใช้สักเท่าไหร่ เพราะไม่ตอบโจทย์ในรูปแบบวิธีคิดของ
จีทคุนโด้ เท่าที่ควรนัก แต่ในภายหลัง จีทคุนโด้ รุ่นหลังๆ
โดยเฉพาะนักเรียน ที่มาจากสายของ Dan Inosanto จะนิยมฝึกผสมผสานหลายวิชาเข้าไว้ด้วยกัน
ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่ารุ่นหลังๆ วิชาศิลปะการต่อสู้ของมวยไทย มีอิทธิพลพื้นฐาน ต่อการนำมาประยุกต์
ให้เข้ากับองค์ประกอบของวิชามวย จีทคุนโด้
ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า
มวยไทย มีอิทธิพลต่อทุกศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงบนโลกนี้จริงๆ
เพราะด้วยความอันตรายของอาวุธ หมัด, เท้า, เข่า, ศอก ของมวยไทย คือวิชาที่นับว่าร้ายกาจที่สุด
ที่เราคนไทยทุกคน ควรรักษาศิลปะการต่อสู้แบบไทย และฝึกมวยไทย เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว
หรือจะฝึกเพื่อออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพก็ได้เช่นกัน ได้เรียนมวยไทย
มีแต่คุ้มกับคุ้มอย่างแน่นอน
อ่านบทความเพิ่มเติม
-
การต่อสู้แบบ MMA
ต่างจาก มวยไทย อย่างไร
สงวนลิขสิทธ์ 2019 MuaythaiStreet Co., Ltd. สงวนลิขสิทธ์ทั้งหมด
เปิดให้บริการทุกวัน ส่งทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
98/3-5 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200